ถ้าจะเอาเนื้อหาที่เรียนก็ตามคอมเมนต์ก่อนหน้าเลย ที่เราอยากเขียนจริง ๆ คือ มันสนุกมากกกก ต้องบอกก่อนว่าเราเป็นพวก introvert สุด ๆ แล้วนี่คือปี 1 เทอมแรก แน่นอนว่าเราไม่มีเพื่อนเลยสักคน ตอนที่มารับน้องของคณะ รุ่นพี่ที่คณะเล่าเกี่ยวกับวิชานี้ให้ฟัง พี่เขาบอกว่า มีเดินป่า มีทำฝาย แล้วก็นู้นนี่นั่น พอเราได้ยินแบบนั้นคือเรารู้สึกว่า 'เห้ยน่าสนใจจัง ' แล้วจากสิ่งที่พี่ในคณะเขาบิ้วแล้ว ไม่มีปีหนึ่งในคณะไปแน่นอน เราก็แบบ "อันนี้แหละ" เลยลงเป็น gened ตัวแรกเลย ตอนที่เรียนวันแรก ได้เจออาจารย์ เจอคนรุ่นเดียวกันเจอรุ่นพี่ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีใครมาจากคณะเดียวกับเราเลย ด้วยความที่เป็นโคตร introvert สุด ๆ ก็นั่งอยู่มุมห้อง แต่คนในห้องใจดี อาจารย์ก็ใจดี โดย อาจารย์ที่สอนมี 2 ท่าน ท่านแรกจะสอนในห้องคู่กับอาจารย์อีกท่านซึ่งสอนทางออนไลน์ เนื้อหาที่เรียนไม่ได้ยากซับซ้อนอะไรเลย เป็นความรู้ที่ย่อยมาแล้ว เข้าใจง่ายมาก อาจารย์จะชอบพูดว่า "ไม่ต้องจด ไม่ต้องจำ ฟังให้เข้าใจ"ตอนที่ได้ยินครั้งแรกก็แบบ 'อา ก็สนุกดิ' พอนั่งฟังไปเรื่อย ๆ มันก็จริง ๆ อะ เราไม่ได้จดอะไรเลย แต่ก็ทำงานส่งได้ ส่วนบรรยากาศในห้องเรียนก็ดีมาก ไม่มีความกดดันใด ๆ ทั้งสิ้น เราเขียนเรื่องค่ายต่อนะ คือ การไปค่ายเนี่ยตามที่คอมเม้นก่อนหน้าบอกทุกอย่าง แต่เรามีเสริมความรู้สึกเราเพิ่ม ตอนที่เราไปทำฝ่าย สนุกมากกกก น้ำก็เย็นมากก ทุกคนช่วยกันทำอะ ต่อให้ในห้องเรียนไม่ได้รู้จักกันด้วยซ้ำ แต่ตอนที่ส่งหินต่อ ๆ กัน ตอนที่ช่วยหาหินที่ขนาดใช้ได้ มันเป็นความรู้สึกที่เราชอบมาก ๆ แล้วก็ยังมีอีกนะ ตอนกลางคืนหลังจากทำกิจกรรมต่าง ๆ เสร็จแล้ว อาจารย์ก็จะให้ทุกคนนั่งล้อมวงกัน แล้วอาจารย์ก็ให้เวลาคุยกันในฝ่าย(เป็นชื่อเรียกแต่ละกลุ่มตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย) ว่าได้อะไรบ้าง แล้วค่อยมาช่วยกันสรุปรวมสิ่งที่ได้ในแต่ละวัน ช่วงที่เราชอบคือ ช่วงเวลาที่อาจารย์ปล่อยให้ปรึกษาในฝ่าย มีรุ่นพี่คนหนึ่งเขานั่งเล่นกีตาร์(อันนี้คือตอนที่ฝ่ายพี่เขาน่าจะคุยกันเสร็จแล้ว) ทุกคนในห้องก็ร้องเพลงคลอ ๆ กันไป เราชอบมากเลยอะ ในคืนที่ 2 จะเพิ่มขึ้นมาอีกอย่างคือ ล้อมวงจุดเทียนต่อ ๆ กันไป แต่ละคนก็พูดความรู้สึกของตัวเองตอนที่เทียนของตัวเองได้ไฟแล้ว รู้สึกดีอะ รอบ ๆ ปิดไฟหมดมีแต่แสงเทียนที่ค่อย ๆ สว่างทีละจุด ต่อ ๆ กันไป ซึ่งมันสวยมาก เสียดายที่ไม่ได้ถ่ายรูปเอาไว้ นอกจากนี้มีเรื่องคนในค่ายอีกนิดหน่อย คือตอนที่นั่งเรียนในห้องเรานั่งอยู่ที่มุมห้อง เลยไม่ค่อยรู้จักใครเลย นอกจากคนในฝ่าย แล้วพอได้ไปค่ายได้รู้จักด้านใหม่ ๆ ของแต่ละคน 'อย่าตัดสินหนังสือที่หน้าปก' คือคำที่เราคิดได้เลยล่ะ ซึ่งหมายถึงวิชานี้ก็เหมือนกัน อย่าตัดตัวเลือกวิชานี้ออกเพียงเพราะเหตุผลต่าง ๆ นานาที่เราไม่ได้เจอด้วยตัวเองคือต้องบอกอีกอย่างว่าเราเป็นคนไม่ชอบคอมเม้น แต่พอไปค่าย ไปเจออะไรใหม่ ๆ ได้รู้สึกถึงความสำคัญของธรรมชาติมากขึ้นเยอะมาก ๆ ได้รู้ที่มาของอะไรหลาย ๆ อย่าง ทำไมถึงแล้งไม่มีน้ำใช้  ทำไมถึงเกิดไฟป่า ทำไมฝนตกแรง ทำไมมีน้ำหลาก ทำไมมีดินถล่ม ทำไมมีน้ำท่วม และทำยังไงให้เราแก้ปัญหาพวกนี้ได้ มันเป็นอะไรที่สำคัญมากจริง ๆ นะ คือที่เราไม่ชอบเขียนคอมเม้นเพราะเราเคยคิดว่ายังไงก็ไม่มีใครนั่งอ่านคอมเมนต์เรา แต่ตอนนี้เรากลับคิดว่า เราต้องบอกสิ่งที่เรารู้สึก สิ่งที่ได้รับรู้ บอกไป คงจะมีใครสักคนที่กำลังหาความรู้สึกแบบนั้นอยู่ จะได้รู้ว่ามันมีจริง ๆ นะ ในฐานะ introvert สายที่เข้ากับคนอื่นไม่เป็น พอได้มาทำตัวมีประโยชน์ได้มาเจอคนใหม่ ๆ ไปในที่ใหม่ ๆ ลองทำอะไรเพื่อสังคมดูบ้างมันก็ไม่ได้แย่อะไรเลยนะ'ทำไมเราถึงกล้าที่จะทำลายธรรมชาติ แต่กลับไม่กล้าที่จะอนุรักษ์ธรรมชาติ' เราบอกกับตัวเองแบบนี้แหละ อยากให้ทุกคนที่กำลังหา gened ลงอยู่ เราแนะนำวิชานี้เลยนะ แม้ว่าคนที่กำลังอ่านอยู่จะไม่รู้ว่าเราเป็นใคร แต่ที่ทนอ่านมาได้จนถึงตอนนี้สุดยอดมากเลย เรามั่นใจเลยนะ ว่าจะสุดยอดได้มากกว่านี้ ถ้าได้ลงวิชานี้ ลองมาเรียน ลองเปิดใจทำความเข้าใจ มันเป็นอะไรที่ดีมาก ๆ เลยนะสุดท้ายแล้ว"ต่อให้มี 10 คนมาบอกเรา ก็ไม่เท่ากับเราลองทำเอง" (แม้ว่า ณ ตอนที่เขียนจะมีแค่ 1 รีวิว กับ 3 ถูกใจ แต่ลองมาเรียนกันนะ)ฝากวิชานี้ด้วยนะะะ

แนวทางการสอน: ออนไลน์ตลอดการเรียน มีออกนอกพื้นที่ที่จังหวัดระยอง 3วัน 2คืน อาจารย์มีสองคน มีผศ.ชูพงศ์ ปัญจมะวัต เป็นอาจารย์ที่คอยช่วยเรื่องต่างๆ มีวิชญ์วิสิฐ ธิราชรัมย์ ค่อยดูแลเรื่องอื่นๆนอกเหนือจากอาจารย์ชูพงศ์อีกที มีดร.พงษ์ศักดิ์ วิทวัสชุติกุลเป็นอาจารย์หลัก

เนื้อที่เรียน : ส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับต้นน้ำลำธาร น้ำใต้ดิน น้ำผิวดิน เรียนเกี่ยวกับป่าไม้ กระบวนการที่ป่าไม้มีเมื่อเกิดเหตุการ์ณต่างๆ เช่น ฝนตก มีเรียนเกี่ยวกับวิถีของชุมชนที่จะไป เรียนเกี่ยวกับเมฆประเภทต่างๆ เรียนเกี่ยวกับไฟป่า วิธีที่จะหยุดไฟป่าเบื้องต้น มีเรียนเกี่ยวกับแผนที่ทหาร และแผนที่ประเภทอื่นๆที่จำเป็นถ้าหลงป่า(แต่อย่าหลงดีสุด อันนี้อาจารย์แค่สอนเอาตัวรอด อย่าได้ใช้เลยจะดีที่สุดนะทุกคน)

ความประทับใจ: ได้ความรู้เยอะมากๆ เรียนวิชานี้แล้วรู้สึกคุ้มมากเพราะเชื่อมโยงเข้ากับหลายๆวิชาที่เรียนในคณะ(เราเรียนคณะวิทยา) แต่ถึงจะเป็นคณะอื่นๆเราว่าก็ได้ประสบการ์ณดีๆเยอะมากนะ เป็นความรู้ที่ไม่ค่อยได้รับรู้เท่าไรเพราะคนทั่วๆไปจะมองว่ายากต่อการเข้าใจ แต่อาจารย์จะทำให้เราขเ้าใจง่าย ค่อยๆย่อยความรู้ให้ ไม่รู้สึกหนักแม้วิชาภาคจะหนักมากก็ตาม ได้เจอเพื่อนต่างคณะด้วย เช่น บริหาร วิศวะ ครุ วิชานี้ไม่ต้องแลกด้วยน้ำตาก็ผ่านและสนุกคับ

สถานที่ที่ได้ไปมา: 1.อุทยานแห่งชาติเขาชะเมา-เขาวง 2. สถานีวิจัยต้นน้ำชายฝั่งทะเลตะวันออก (ห้วยหินดาด) 3.ชุมชนบ้านตะเกราทอง 4.ชุมชนบ้านมาบจันทร์

ภาระงาน: มีงานย่อยๆระหว่างเรียนออนลไน์ อาจารย์จะพูดทุกอย่างเป็นหลักการง่ายๆ เข้าใจไม่อยาก มีทำรายงานง่ายๆเกี่ยวกับสถานที่ที่ไปมา และมีงานย่อยๆของแต่ละสถานที่ 1 สถานที่ 1งาน เป็นการตอบคำถามง่ายๆจากช่วงที่อาจารย์บรรยายระหว่างอยู่ที่นั้นๆ เหมือนต้องการเช็คแค่ว่าได้ความรู้กลับมา เพราะแต่ละที่จะทีมีจุดเด่นต่างกัน สนุกทุกที่ ถ้าให้เลือกคือเลือกไม่ได้ แต่ใจแอบเทไปตอนได้สร้างฝายชะรอน้ำบนเขาที่ชุมชนบ้านมาบจันทร์

คะแนน: มาจากงานทั้งหมด ส่งครบเท่ากับS

แนะนำให้มาเรียน มีอะไรดีๆ ประสบการ์ณดีๆนอกเหนือจากที่เราได้พิมพ์ไปข้างต้นเยอะมาก เช่น บ้านพักที่ติดทะเล แม้จะไม่มีบม แต่อากาศเย็นชื่นใจ สัมผัสธรรมชาติของแท้ บริเวณบ้านพักเงียบสงบสุด อันที่คือเส้นสายอารย์จานเพื่อนิสิต ตอนปิดคาสมีจุดเทียนบ้อมวงพูดความประทับใจ เพื่อนๆหลายคนมีน้ำตาไหล นี่ก็เกือบไหลแต่กลับมาได้เพราะห่วงกิน อาจารย์เลี้ยงดี